h-drive s spec โชค h drive h drive s spec ยังไง , เช็คยังh-drive s spec โชค h drive h drive s spec โช๊คอัพ รถยนต์ มีกี่แบบ , เลือกยังไง , เช็คอย่างไรว่าเสีย , ซ่อมหรือเปลี่ยนดี...?สวัสดีท่านผู้ครอบครองรถยนต์ทุกคนครับผม วันนี้ “Milework” จะมาเคลียปัญหาให้ได้ทราบกัน พูดได้ว่าเมื่ออ่านเนื้อหานี้จบแล้ว “คุณจำต้องอยากรีบกลับไปเช็ครถยนต์ของคุณเลยที่เดียว”ว่ากันประเด็นการใช้รถยนต์ในทุกๆวัน พวกเราๆท่านๆมักจะดูแลรถแค่การไป ล้าง อัด ฉีดในวันหยุดเพียงเท่านั้น บางเวลาปล่อยทิ้งระบบต่างๆที่สำคัญนั่นคือ ระบบตอนล่าง ที่นอกเหนือจากการที่จะช่วยเรื่องความนิ่มนวลแล้ว ท่านรู้หรือไม่ครับ? อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนน h-drive s spec โชค h drive h drive s spec หลายคราว เป็นเนื่องจากระบบตอนล่างของรถยนต์มีปัญหา โดยเหตุนี้อีกความสำคัญหนึ่งก็คือ "ยึดรถกับผิวถนนและก็ช่วยหัวข้อการทรงตัวของรถ" นั่นเองโดยปกติอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีหลากหลายชนิด แต่หลักการทำงานไม่ได้มีความแตกต่างกันนัก ซึ่งหลักการทำงานในปัจจุบัน มีอยู่ 2 จังหวะเป็นจังหวะยืด แล้วก็ จังหวะยุบ เอาง่ายๆว่า ในขณะขับรถช่วงล่างจะรอเบาแรงขณะยุบแล้วก็ยืดตัวอยู่ตลอดเวลา ช่วยปกป้องไม่ให้ขณะเบรคกระทันหันแล้วหน้ารถทิ่มแทงลง
มีกี่แบบเราบางทีอาจเคยได้ยิน แบบเดิมๆกับ แบบแต่ง ก็อาจมีปัญหาสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ปกติอย่างเราๆว่ามีด้วยหรือ? แล้วที่ว่าแบบเดิมกับแต่ง แตกต่างกันอย่างไร? แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนไหม ? ก็จะบอกแบบงี้ครับผมว่าบางครั้งอาจจะไม่จำเป็นในเรื่องที่ท่านขับขี่บนถนนในเมือง ซึ่งแบบแต่งนั้นจะนิยมในกลุ่มนักแต่งรถยนต์ หรือนักแข่งสายซิ่งที่ปรารถนาเพิ่มสมรรถนะของรถยนต์สำหรับเพื่อการขับรถ การยึดเกาะถนนหนทาง แบบนั้นมาดูกันว่าของเดิมๆมีกี่แบบ
1. ชนิดกระบอกผู้เดียว (Mono Tube)รูปแบบของกระบอก จะเป็นชิ้นเดียวตามชื่อ แม้กระนั้นแบบคนเดียวนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง-คงทนสูง สามารถรับแรงชนได้เป็นอย่างดี ถ้าเกิดตัวกระบอกไม่แข็งแรงพอ h-drive s spec โชค h drive h drive s spec แน่นอนว่าจะมีปัญหาในการรับแรงจากรถยนต์ทั้งคันรวมทั้งแรงจากพื้นขณะที่กำลังขับขี่ อาจทำให้กระบอกเบี้ยวผิดรูปผิดรอย h-drive s spec โชค h drive h drive s spec แม้กระนั้นเพียงแค่แข็งแรงอย่างเดียวก็คงจะน้อยเกินไป วัสดุที่ใช้ผลิตยังจะต้องมีน้ำหนักค่อยอีกด้วย ก็เลยได้รับความนิยมในหมู่นักซิ่ง นักแต่งรถ จึงทำให้แพงแพงกว่าแบบอื่น
2. ชนิดกระบอกคู่ (Twin Tube)เป็นแบบที่ใช้งานกันอยู่ทั่วๆไป ที่เรียกว่ากระบอกคู่ ก็เนื่องจากว่าด้านในเป็นกระบอกสองชั้น (มีการดำเนินงานของกระบอกที่สลับซับซ้อนกว่าแบบ Mono Tube พอควร) กระบอกข้างในปฏิบัติภารกิจเป็น “กระบอกสูบ” ซึ่งมีน้ำมันที่ดีไซน์มาเป็นพิเศษบรรจุไว้ข้างใน ส่วนช่องว่างด้านนอก จะเป็น “ช่องสำรองน้ำมัน” แบ่งเป็นอีก 2 แบบเป็นแบบน้ำมันอย่างเดียวเรียก “ประเภทกระบอกคู่-แบบน้ำมัน” จะมีน้ำมันบรรจุประมาณ 2 ใน 3 ที่เหลือจะเป็นอากาศ การที่บรรจุน้ำมันในจำนวนที่มากช่วยในเรื่องการเคลื่อนที่นุ่มนวล อีกชนิดที่ได้รับความนิยมในตอนนี้คือ ประเภทกระบอกคู่-แบบก๊าซ” ก็จะใส่ “แก๊ส” ไว้ภายในช่องน้ำมันสำรองนี้ด้วย โดย"แก๊ส"นี้จะช่วยสำหรับในการสนองตอบที่เร็วทั้งการคืนตัวเร็ว-ยุบตัวช้า แต่ว่าจะมีความแข็งมากกว่าแบบน้ำมัน (ก๊าซอุตสาหะดันสู้ตลอดระยะเวลา) ก็ได้เรื่องการเกาะถนนหนทางที่ดี ลดอาการโคลงตัว แต่ความนิ่มนวลก็จะลดน้อยลงกว่าแบบน้ำมันสรุปจุดแข็งของ ชนิดกระบอกคู่หมายถึงทุนการผลิตถูกกว่า ตัวอุปกรณ์ไม่จำเป็นที่จะต้องแข็งแรงเหมือน ประเภทกระบอกเดี่ยว เพราะเหตุว่ากระบอกสูบจริงๆนั้นอยู่ภายใน ข้างนอกเป็นช่องน้ำมันสำรอง จึงไม่ค่อยพบปัญหาในเรื่องความแข็งแรง ทำให้ราคาไม่สูงมาก จึงได้รับความนิยมและใช้กันอยู่ทั่วไปแถมสำหรับคนที่พอใจ โช๊คอัพ รถยนต์ แบบแต่ง จะแบ่งเป็น 3 แบบ
1.ประเภทปรับความสูงไม่ได้ลักษณะราวกับของเดิมๆที่ติดมากับรถ เพียงแค่มีการปรับปรุงให้มีความสามารถที่สูงขึ้น หนึบแน่นยึดเกาะผิวถนนก้าวหน้าขึ้น ซึ่งสังเกตว่าจะไม่สามารถที่จะปรับความสูงได้ เบ้าสปริงจะมีขนาดใหญ่เท่าของเดิมที่สร้างขึ้นมาจากโรงงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบใจความหนึบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง และพึงพอใจกับระดับความสูงจากพื้นของตัวรถ ไม่อยากให้โหลดหรือยกสูงมากมายไป
2.ประเภทสตรัทปรับเกลียวได้รับความนิยม h-drive s spec โชค h drive h drive s spec พอสมควร บริเวณเบ้าสปริงสามารถปรับให้สูง-ต่ำได้จากที่เจ้าของรถยนต์พอใจ มีสปริงทรงกระบอก เรียกว่า สปริงหลอด ที่ปรับความแข็งหรือเรียกว่า “ค่า K.” ได้ ส่วนขนาดก็มีมากมายให้เลือก ซึ่งจะเห็นได้ว่าปรับปรุงมาจากแบบแรกนั่นเอง เป็นที่นิยมสูงที่สุดในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตบ้านพวกเรา
|
Article Directory /
Arts, Business, Computers, Finance, Games, Health, Home, Internet, News, Other, Reference, Shopping, Society, Sports
|
